การสงครามที่ล้ำสมัยที่เปลี่ยนแปลงเกม
Call of Duty: Black Ops 7 เป็นเกมแอคชั่นที่มีอาวุธและเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัย เหมือนกับเกม Call of Duty ทั้งหมด มันมีการกลับมาของ โหมดผู้เล่นหลายคน ซึ่งในนั้นสองทีมจะต้องแข่งขันกันเพื่อทำภารกิจสำคัญให้สำเร็จ โหมด ซอมบี้ ที่ได้รับความนิยมก็กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นโหมดการอยู่รอดแบบรอบที่เริ่มต้นโดย Treyarch ผู้พัฒนาเกมนี้
แคมเปญของ Call of Duty: Black Ops 7 ดำเนินเรื่องราวหลัก ของซีรีส์ Black Ops และ มีตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์หลายตัว ที่แฟนๆ น่าจะคุ้นเคย เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่มีบรรยากาศเข้มข้นนี้สามารถเล่นได้บน PC และคอนโซล
ประสบการณ์ดิสโทเปียที่วุ่นวาย
Call of Duty: Black Ops 7 ติดตามเหตุการณ์ของ Call of Duty: Black Ops 2 ซึ่งเนื้อเรื่อง เกิดขึ้นในปี 2035 — เป็นการก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยในไทม์ไลน์ ดังนั้นคาดว่าจะได้เห็น อาวุธขั้นสูง อย่างไรก็ตาม แนวทางในอนาคตของชื่อเรื่องนี้ สูญเสียเสน่ห์ดั้งเดิมไปมาก เนื่องจากแฟรนไชส์นี้เป็นที่รู้จักในด้านประสบการณ์ที่มีรากฐานและสมจริง และน้อยลงในด้านเทคโนโลยี
เมื่อพูดถึงส่วนออนไลน์ของเกม ประสบการณ์ผู้เล่นหลายคน นำโหมดเกมที่คุ้นเคยกลับมา ในแฟรนไชส์ CoD เช่น Team Deathmatch, Domination, Search and Destroy และสามารถเล่นได้ใน 18 แผนที่ผู้เล่นหลายคนใหม่ Omnimovement — ที่ถูกแนะนำครั้งแรกใน Call of Duty: Black Ops 6 — ได้รับการอัปเดตอย่างมากในกลไกการเคลื่อนไหว ทำให้ประสบการณ์มีความลื่นไหลและราบรื่นมากขึ้น
ผู้เล่นที่ต้องการดำดิ่งสู่ โหมดซอมบี้แบบรอบ ที่มีชื่อเสียงอีกครั้งจะถูกดึงเข้าสู่ฝันร้ายของ Dark Aether พร้อมกับปริศนาใหม่ ๆ ที่ต้องแก้ไขและความลับที่ต้องเปิดเผย กลุ่มซอมบี้ของ Black Ops 6 จะเป็นนักแสดงหลักอีกครั้ง แต่ กลุ่มคลาสสิก จาก Call of Duty: World at War ก็เป็นตัวเลือกที่สามารถเล่นได้เช่นกัน
การกลับบ้านที่มีรสชาติขมหวานสำหรับนักรบที่มีประสบการณ์
แฟน ๆ ที่ติดตามซีรีส์ Black Ops มาเป็นเวลานาน — และโดยทั่วไป Call of Duty — จะรู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่า Call of Duty: Black Ops 7 รู้สึกเหมือนเป็นเกมที่แตกต่างออกไปเนื่องจากธีมไซไฟของมัน ขณะที่หลาย ๆ ด้านดูคุ้นเคย เช่น การเคลื่อนไหวและโหมดเกม แต่ก็ยังรู้สึกแปลก ๆ กับหุ่นยนต์ที่วิ่งไปมา มันเป็นการยกย่อง Call of Duty: Advanced Warfare ซึ่งก็เกิดขึ้นในอนาคตเช่นกัน。
